โบรกเกอร์รายนี้มีตัวเลือกของบัญชีทดลองฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุด(https://brokerreview.net/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E...) และมีบัญชีพื้นฐานสามประเภท ได้แก่ บัญชี Mini หรือ มินิ บัญชี Classic หรือ คลาสสิก และ ECN หรือ อีซีเอ็น ซึ่งบัญชี Mini มีเป้าหมายสำหรับเทรดเดอร์ที่ยังไม่มีประสบการณ์รวมถึงผู้ที่ไม่ต้องการเทรดในปริมาณมาก ส่วนบัญชี Classic นั้นมีเป้าหมายสำหรับเทรดเดอร์ทั่วไปและมืออาชีพพร้อมด้วยเครื่องมือ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการเทรดอย่างครบวงจร และบัญชี ECN ซึ่งได้รับการออกแบบสำหรับลูกค้าที่ต้องการเทรดในสภาพแวดล้อมเครือข่ายการสื่อสารทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Communication Network )ตามชื่อจึงมีความเกี่ยวข้องกับค่าคอมมิชชั่น
สิ่งสำคัญอีกสิ่งหนึ่งซึ่งมีประโยชน์มากที่ควรกล่าวถึงคือบัญชี Mini และบัญชี Classic นั้นมีตลาดและตัวเลือกการดำเนินการที่รวดเร็วซึ่งเทรดเดอร์ส่วนใหญ่ชอบการดำเนินการแบบทันทีทันใดเนื่องจากช่วยให้สามารถควบคุมการลื่นไหลได้มากขึ้น และมีการรีโควตแทนที่การดำเนินการตามคำสั่งในราคาที่ดีที่สุดถัดไป
โปรดทราบว่า Exness ไม่ได้ให้บริการแก่ผู้อยู่อาศัยและพลเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกา และประเทศญี่ปุ่น

เงินฝากขั้นต่ำของ Exness(https://brokerreview.net/exness-minimum-deposit-th)

ฟอเร็กซ์ โบรกเกอร์ส่วนใหญ่มีความต้องการเงินฝากจำนวนหนึ่งเพื่อให้ลูกค้าเริ่มทำการเทรด อย่างไรก็ตามไม่มีความจำเป็นต้องฝากเงินสำหรับโบรกเกอร์ Exness (สำหรับบัญชี Mini) ตัวอย่างเช่น XM ที่มีพื้นฐานของไซปรัส (Cyprus-based) มีความต้องการเงินฝากเริ่มต้นขั้นต่ำเป็นจำนวนเงิน 5 ดอลลาร์ ในขณะที่ FxPro ซึ่งควบคุมโดย CySEC นั้นมีความต้องการ 500 ดอลลาร์จากลูกค้า

สเปรดและค่าคอมมิชชั่นโดยเฉลี่ย

EXNESS ให้ทำการเทรดด้วยสเปรดที่ต่ำที่มีความผันแปร ซึ่งสเปรดโดยเฉลี่ยในบัญชีนั้นตั้งแต่ไม่มีค่าคอมมิชชั่นจนถึง 0.9 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EUR / USD ในขณะที่เจ้าของบัญชี ECN ให้มีสเปรดเฉลี่ย 0.4 pips สำหรับคู่สกุลเงิน EUR / USD อย่างไรก็ตามจะมีการเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นจำนวน 2.5 ดอลลาร์ต่อลอตมาตรฐาน

เลเวอเรจ

ระดับเลเวอเรจจากรีวิว Exness(https://brokerreview.net/exness-thailand-reviews) นั้นมีความสอดคล้องกับแนวทางของ ESMA ซึ่งในปัจจุบันสูงสุดอยู่ที่ 1:30

ซึ่งเลเวอเรจนั้นอาจทำให้พวกเขาได้รับกำไรทวีคูณ แต่อาจนำไปสู่การเสียเงินอย่างมากเช่นกัน จากข้อกังวลดังกล่าวเพื่อคุ้มครองนักลงทุนจึงกำหนดเพื่อควบคุมอัตราเลเวอเรจที่ 1:50 ในประเทศสหรัฐอเมริกา, 1:25 ในประเทศญี่ปุ่น และ 1:30 ในสหภาพยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรป

แพลตฟอร์มการเทรด

EXNESS ให้บริการบนแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมสูงสุดในเหล่าเทรดเดอร์สองอย่าง ได้แก่ MetaTrader 4 และ MetaTrader 5 ซึ่ง MT4 มาตรฐานอุตสาหกรรมมีให้ใช้งานในเวอร์ชันเดสก์ท็อป แอปมือถือที่มีเวอร์ชันสำหรับเว็บพื้นฐานที่เรียกว่าเทอร์มินอลเว็บ MT4

MT5 ได้รับการพัฒนา และทำการตลาดเพื่อการปรับปรุง MT4 แต่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ใหญ่ที่สุด(https://brokerreview.net/top-5-largest-forex-brokers-in-2018)ยังคงต้องการเทคโนโลยีก่อนหน้านี้เนื่องจาก MT5 ไม่มีการป้องกันความเสี่ยงและยิ่งไปกว่านั้นทั้งอินดิเคเตอร์และที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ (EA) ของ MT4 ไม่สามารถให้ความช่วยเหลือบนแพลตฟอร์ม MT5

โปรโมชั่น

EXNESS ได้ร่วมมือกับเว็บไซต์ PayBackFX เพื่อคืนเงินฟอเร็กซ์ซึ่งตอนนี้มีตัวเลือกให้ลูกค้าได้รับเงินคืนสำหรับการเทรดในแต่ละครั้งที่พวกเขาทำได้ในจำนวน 30 เปอร์เซ็นต์ของสเปรดกรณีที่ใช้บัญชี Exness(https://brokerreview.net/%E0%B8%9A%E0%B8%B1%E0%B8%8D%E0%B8%8A%E0%B8%B5-e...) ทั้ง Mini หรือ Classic ในการเทรด หรือ 0.75 ดอลลาร์สำหรับแต่ละรอบเปลี่ยนลอต (round-turn lot)

วิธีการชำระเงิน

โบรกเกอร์ยอมรับการฝากเงินของลูกค้า และอนุญาตให้ถอนผ่านการโอนเงินทาง Neteller (เน็ตเทลเลอร์) บัตรเครดิตและการโอนภายใน (สามารถถอนได้)
ส่วน Skrill (สกริล) และ PayPal (เพพาล) เป็นระบบการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ที่สำคัญที่ไม่มีบริการ

สรุป

EXNESS เป็นโบรกเกอร์ที่น่าเชื่อถือด้วยกฎระเบียบที่รัดกุมซึ่งให้เครื่องมือการเทรดที่หลากหลายแก่ลูกค้าบนสองแพลตฟอร์มภายใต้เงื่อนไขการเทรดที่น่าสนใจ จากการสรุปข้างต้นมาทั้งหมดคือข้อดี และข้อเสียของโบรกเกอร์นี้

Author's Bio: 

Fanara Filippo ทำงานที่ BRKV เขามีประสบการณ์หลายปีในตลาด Forex